ณ ตลาดแห่งหนึ่งที่มีผู้คนพลุกพล่านในยามเช้า บางคนกำลังอยู่ระหว่างการมุ่งหน้าเดินทางไปทำงาน บางคนก็กำลังออกมาเดินจ่ายตลาดอย่างแม่บ้านทั่วไป ร้านแผงลอยเนืองแน่นเต็มสองข้างทาง บ้างก็เกยเลยล้นออกมาเบียดกินถนนไปหนึ่งเลนจนทำให้รถราที่วิ่งผ่านเส้นทางนี้ต้องชะลอความเร็วลง ภาพบรรยากาศเช่นนี้ทำให้ตลาดที่ดูจ้อกแจ้กจอแจยิ่งดูเนืองแน่นขึ้นไปอีก พ่อค้าแม่ค้าแข่งกันตะโกนเรียกลูกค้า ตั้งแต่ร้านขายข้าวแกงปากทางเข้าตลาด ร้านขายขนมที่อยู่ข้าง ๆ กัน ปาท่องโก๋ โรตีสายไหม และร้านเค้กที่ดูน่าอร่อย ต่างส่งเสียงเชิญชวนและส่งกลิ่นยั่วยวนตลอดทาง
ฉันเดินเลี่ยงตลาดออกมาใช้อีกเส้นทางหนึ่งที่ขนานกัน ในวันอาทิตย์ที่ผู้คนบางตา ทางเดินนี้จะแลดูแคบกว่าทางเดินในตลาด แต่ในวันทำงานทั่วไป ทางเดินนี้กลับดูกว้างขวางและผู้คนก็สามารถเดินสวนกันได้สบายกว่าทางเดินในตลาดมาก บนเส้นทางนี้ดูเหมือนทุกคนต่างก็เร่งรีบ ฉันคิดว่าคนที่ใช้เส้นทางนี้คงเป็นเพียงแค่คนสัญจรผ่านตลาดเท่านั้น ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายจะเที่ยวชมหรือแวะซื้อของในตลาด ทั้งสองเส้นทางได้แบ่งแยกผู้คนออกเป็นสองกลุ่มโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีป้ายบอก
เส้นทางขนานตลาด “สายเร่งรีบ” นี้ไม่ค่อยมีของขาย จะมีก็เพียงแค่ร้านน้ำมะพร้าวสดที่ขายเคียงกับร้านน้ำส้มคั้นสด ผู้คนที่เร่งรีบเดินผ่านโดยแทบจะไม่มีคนให้ความสนใจร้านค้าทั้งสอง แต่ถัดไปอีกเพียงประมาณสี่ถึงห้าเมตร มีร้านขายหมูปิ้ง ร้านนี้กลับไม่เงียบเหงาเหมือนร้านขายน้ำที่ฉันเพิ่งเดินผ่านมา
คนเดินผ่านไปผ่านมาแวะซื้อหมูปิ้งคนละสองสามไม้ บ้างก็ซื้อข้าวเหนียวด้วย ฉันคิดว่าหมูปิ้งสามารถจัดเป็น Fast Food แบบไทย ๆ ได้เลย เพราะขายคล่องมากบนทางเดินเส้นนี้ ตรงนี้อาจจะเป็นข้อคิดได้สำหรับคนที่สนใจธุรกิจได้ไม่มากก็น้อย แต่เรื่องที่ทำให้ฉันต้องเก็บมาคิดในวันนี้ มันเกิดขึ้นต่อจากนี้ต่างหาก
“ธงชาติและเพลงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ
ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราชและความเสียสละของบรรพบุรุษไทย”
หลังสิ้นเสียงเกริ่นนำ ฉันก็เดินมาถึงหน้าร้านขายหมูปิ้งพอดิบพอดี ฉันหยุดเดินและหันหน้าไปในทิศของต้นเสียง แม้ว่าฉันจะไม่เห็นเสาธงสักต้น แต่ฉันก็เชื่อว่าฉันกำลังจะยืนตรงเคารพธงชาติที่กำลังจะถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาที่ไหนสักแห่ง
ภายใต้สภาวะที่ฉันกำลังหยุดนิ่งเพื่อเคารพสิ่งที่ฉันเรียกว่า “ชาติ” บรรยากาศรอบตัวกลับกำลังตกอยู่ในห้วงความรู้สึกสุดประหลาด ผู้คนอีกหลายคนกำลังสอดส่ายสายตาในเชิงประเมินว่าเขาควรทำตัวเช่นไร เขาควรจะหยุดยืนตรงหรือไม่ หรือเขาควรจะเดินต่อไปในเส้นทางสายเร่งรีบ เพื่อให้เส้นทางสายนี้ยังคงดูเร่งรีบเช่นเดิม บรรยากาศวัดใจเช่นนี้เกิดขึ้นในช่วงท่อนที่หนึ่งและสองของบทเพลง และหลังจากนั้น ทุกคนก็หยุดเดิน แม้จะดูไม่ค่อยสงบนิ่งสักเท่าไรแต่ถนนเส้นนี้ รวมไปถึงในตลาด ก็แลดูจะหยุดนิ่งเพื่อชาติเป็นเวลาหนึ่งบทเพลง
ช่วงเวลาหนึ่งบทเพลงที่ทุกคนเสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อเวลาของชาติ ฟังดูแล้วก็ดูยิ่งใหญ่ทีเดียว แม้ว่าฉันไม่แน่ใจนักว่าผู้คนที่เร่งรีบเหล่านั้นเขาเต็มใจที่จะเสียสละเวลานี้หรือไม่ ภายในหนึ่งบทเพลงใช้เวลาไม่น่าเกินหนึ่งนาที หมูปิ้งบางไม้ที่วางอยู่บนเตาไม่อาจจะทนความร้อนได้นานขนาดนั้น มันเริ่มไหม้ คนขายหมูปิ้งยืนมองเหมือนรู้ว่ามีไม้ไหนจะไหม้แล้วบ้าง แต่เขาก็ไม่เอื้อมมือไปพลิกหมูไม้นั้น เขายังคงยืนตรงสงบนิ่งให้จนบทเพลงแสดงความเป็นชาติเพลงนั้นจบลง เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าหมูปิ้งที่ไหม้ทิ้งไป ฉันมองด้วยความประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง
บางที การปล่อยให้หมูปิ้งไหม้ทิ้งไป มันก็ดูเป็นการกระทำที่โง่เขลา
บางที เพียงแค่เขาเอื้อมมือมาจัดการพลิกมักสักไม่กี่วินาที ก็คงไม่เสียของ
บางที การเสียหมูปิ้งไปนั้น ก็อาจนับเป็นการเสียสละเพื่อชาติก็ได้
แม้ว่าผู้คนจะเร่งรีบ
แม้ว่าฉันจะไม่มั่นใจว่าเขาเต็มใจจะเสียสละเวลาหนึ่งบทเพลงเพื่อชาติหรือไม่
แต่ฉันมั่นใจว่า ก็ยังมีคนที่ภาคภูมิใจและพร้อมจะเสียสละเพื่อชาติได้
แม้บางทีมันอาจจะดูไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ก็ตาม